พงไพร ผีป่า นางไม้

พงไพร ผีป่า นางไม้

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทริปเส้นทางแห่ง...ผู้พิชิตขุนเขา...ท้าลมหนาว ตอน..มรดกทางธรรมชาติ...ฟังเสียงฟานโขก ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ตะวันออก) อ.อุ้มผาง จ.ตาก





    เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ตะวันออก) อ.อุ้มผาง จ.ตาก ใช้เส้นทางจากตัวอำเภออุ้มผาง - บ้านปะละทะ ผ่านดอยหัวหมด ผ่านเนินมหัศจรรย์ เราใช้เวลาขับรถราวๆ ชั่วโมงเศษนิดๆ ในช่วงบ่ายวันที่ 25  มกราคม 2557 ก็เดินทางมาถึงตัวสำนักงานที่ทำการเขต ในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ

เส้นทางสะดวกสบายในช่วงแรก ในช่วงหลังเส้นทางเป็นลูกรังฝุ่น แต่ก็วิ่งได้สบายๆ





ป้ายบอกเข้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก จังหวัดตาก

ติดต่อกรอกข้อมูลที่ด่านตรวจ





แล้วก็ติดต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่งก่อน ที่อาคารสำนักงาน



คืนนี้ เราจะพักที่นี่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากนอนที่อื่น ระวัง "ช้าง"




เพื่อนร่วมโลกน่ารักของเรา พระเอกของการเดินทางครั้งนี้ มาหากินตั้งแต่หัววัน
"เก้ง" หรือทางภาคเหนือเรียกว่า "ฟาน"
ตัวนี้อัธยาศัยดี คุ้นเคยคน





มูลเก้ง

ลูกไม้ป่า (ต้นกระตึ้ด) หากหล่นลงมา ก็เป็นอาหารเก้ง

แบ่งปันกล้วย






ปลอกเปลือกกินแต่เนื้อใน


" กระรอกใหญ่ " กับลูกมะขามป้อมป่า


"ไก่ฟ้าหลังเทา" หากินใกล้ๆที่พักเรา คู่ไปกับเจ้า"เก้ง"อีกตัวที่กระโดดออกมาจากแนวป่า ร่วมหากินด้วย












เก้งที่ออกหากินคู่กับไก่ฟ้าตัวนี้ สัญชาตญานระวังไพร ไวมาก เผลอแผลบก็กระโดดเข้าป่าหายไปเลย


กินไปด้วย จ้อง..ระวังตัวไปด้วย


     ตกยามพลบค่ำ ทานข้าวกันเรียบร้อย ก็พบปะพูดคุยสนทนากันระหว่างสมาชิกในกลุ่มเกี่ยวกับการเดินทาง เล่าเรื่องธรรมชาติและสัตว์ป่า ตลอดจนสิ่งต่างๆที่พบเจอมาตลอดการเดินทางครั้งนี้ จนกระทั่งพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ความมืดมิดบวกกับความเงียบเข้ามาครอบงำ สัตว์ป่าหากินตอนกลางวัน เผ่นหายเข้าไปในแนวป่า เสียงสัตว์หากินตอนกลางคืน ..ช้างป่า ..หักกิ่งไม้ดังลอยแว่ว..มาแต่ไกล นกหากินกลางคืน..ร้องเสียงเย็นยะเยือก กระทบต่อมประสาทให้เราเกิดความวังเวง จิตตระหนกได้พอสมควร แต่ก็ทำให้เราเพลินกับชีวิตป่า..เสียงเพรียกแห่งธรรมชาติ วิถีชีวิตแห่งพงไพร จนลืมวิถีชีวิตของคนเมือง และความเมื่อยล้าจากการเดินทางก็ผ่อนคลายหายไป เป็นอารมณ์แห่งป่าดง พงไพร ที่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้สัมผัส 
    ขณะที่เราคุยกันอยู่เวลาก็เลื่อนคล้อยไป เหลือบดูนาฬิกาก็เกือบจะทุ่มแล้ว  ฉับพลัน..เสียงบางอย่าง น่าจะเป็นเสียงสัตว์ป่า เป็นเสียงที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็ปรากฎดังขึ้น เสียงนั้นดังก้องพอสมควร ฟังคล้ายๆกับเสียงสุนัขไอขะย้อนเศษอาหาร แต่ก็ดังก้องและสั้นห้วนกว่ามาก ได้ยินเสียงดังอยู่เป็นเวลานาน ดังเป็นระยะ ระยะ หลายๆช่วงป่า ก็ฟังอยู่ตั้งนาน แตก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงตัวอะไร เรามารู้ทีหลังจากเจ้าหน้าที่ในตอนรุ่งเช้า นั่นคือเสียง...ฟานโขก(เก้งร้อง).. ก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ยินคนอื่นเล่าใหเฟังมานาน เป็นเสียงที่ ยากที่จะเลียนแบบได้จริงๆ



    หลังจากคุยกันอิ่มแล้วก็ปลีกตัวเข้านอน ความหนาวเหน็บจับใจสุดๆ ลุกมาดูเวลา 22:49 นาฬิกา อุณหภูมิบอกอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส มันหนาวมาก ลมไม่พัดแต่หนาวสุดๆ

   นอนหนาวต่อไป จนกระทั่งเวลา 05:28 นาฬิกา นอนพลิกไป หนีบมือมา ลุกขึ้นมาดูอุณหภูมิบอกที่ 2 องศาเซลเซียส พร้อมกับระบบเตือนอุณหภูมิในรถยนต์ต่ำกว่า 3 องศาเซลเซียสดังเตือนตลอดเวลา โอโห!!...หนาวที่สุดครับ...ตั้งแต่เดินทางมา

      ตื่นราวๆเกือบเจ็ดนาฬิกา เจ้านกปรอทหัวโขน มาพองตัวอาบแดดไล่ความหนาวอยู่หน้ารถ ร้องเสียงแหลมแจ้วเชียว ถ้ามันห่มผ้าเป็น คงมาแย่งผ้าห่มเราแล้ว ..แฮ่...!


ทานข้าวเช้าเสร็จ เก็บตกภาพถ่าย เอากลับไปแต่ภาพ.. ไปที่หมายต่อไป จำเสียง "ฟานโขก" ไปอีกนาน











พ้นด่านตรวจออกมาได้เดี๋ยวเดียว แลนด์โรเวอร์ ทิ้งฝุ่นเห็นแต่ไกลเชียว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น