พระพิมพ์ซุ้มกอ เล่ายังไงเขียนยังไงก็ยังไม่รู้จบสิ้น เป็นพระเครื่องที่มีความหลากหลาย ทั้งแม่พิมพ์ กรุพระ การค้นพบ เนื้อหามวลสาร เป็นพระพิมพ์ที่มีความมหัศจรรย์แก่การค้นคว้าจริงๆ
องค์นี้ที่ค้นพบล่าสุด ได้มาในสภาพเลี่ยมพลาสติกแบบโบราณ พอแกะพลาสติกออกจึงได้พบความมหัศจรรย์ที่รออยู่
มหัศจรรย์ปรอทพระฤษี
เม็ดปรอท...ถ่ายออกมาไม่ค่อยชัดเจนนัก ต้องใช้เลนส์มาโครเท่านั้น แต่เมื่อใช้กล้องส่องพระ ปรอทสดใส สวยงามมาก เม็ดเล็กสุดกำลังผุดต่อๆกันมา เป็นที่อัศจรรย์ ยิ่งส่องยิ่งสวยงาม
เรื่องเล่า ปรอทพระฤษี พระฤษีตาวัว
พระฤษีตาวัว ผู้ให้กำเนิดปรอทเสก..เดิมทีเป็นพระสงฆ์ ตาบอดทั้งสองข้าง ชอบเล่นแร่แปรธาตุ จนสามารถทำให้ปรอทแข็งได้ แต่ว่ายังไม่ทันได้ใช้ให้เกิดประโยชน์อะไร ก็ทำปรอทนั้นตกหล่นไปในฐาน (ส้วม) จะหยิบคืนมาก็ไม่ได้ เพราะตามองไม่เห็น จึงเก็บเงียบไว้ ไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งวันหนึ่ง มีลูกศิษย์มาเข้าใช้ฐาน ก็สังเกตเห็นแสงเรืองๆ จมอยู่ใต้ ในฐาน ก็กลับมาเล่าให้อาจารย์ฟัง อาจารย์ก็ดีใจ จึงให้ศิษย์พาไป ถ้าเห็นแสงเรืองตรงไหน ก็ให้จับมือจุ่มลงไปตรงนั้น จะเลอะเทอะยังไงก็ช่างมัน ศิษย์จึงทำตาม พระอาจารย์จึงควักเอาปรอทกลับคืนมาได้ จัดแจงล้างทำความสะอาด แล้วแช่เอาไว้ในโถน้ำผึ้งที่ใช้ฉัน ไม่นำติดตัวไปไหนอีก
จนกระทั่งวันหนึ่ง พระอาจารย์จึึงมานั่งรำพึงถึงสังขาร ว่า เราจะมานั่งตาบอดอยู่ทำไม มีของดีของวิเศษอย่างนี้แล้ว น่าจะลองดู จึงให้ลูกศิษย์ไปหาศพคนตายใหม่ๆ เพื่อจะควักเอาลูกตามา แต่ว่าลูกศิษย์หาศพใหม่ๆไม่ได้ พบวัวนอนตายใหม่ๆอยู่ตัวหนึ่ง เห็นว่าน่าจะดี จึงควักลูกตาวัวไปให้พระอาจารย์แทน พระอาจารย์จึงนำปรอทที่แช่น้ำผึ้งไว้ มาคลึงที่ตา ควักเอาตาที่เสียออก เอาตาวัวใส่เข้าไปแทน แล้วก็เอาปรอทอาคมนั้นคลึงตามหนังตา ไม่ช้า ตาทั้งสองข้างก็กลับเห็นดี เป็นธรรมดา หลังจากนั้นพระอาจารย์จึงสึกจากพระ เข้าถือเพศเป็น..ฤษี เนื่องจากตนเองชอบเล่นแร่แปรธาตุ ผู้คนจึงเรียกกันต่อมาว่า....พระฤษีตาวัว
ด้านข้าง
แสดงถึงชั้นของมวลสารว่านและชั้นความเก่าตามสภาพของแต่ละมวลสาร
การปาดแต่งขอบพระแบบโบราณ
"ดูพิมพ์..ให้ดูได้ แต่ดูเนื้อ...ให้ดูเป็น"
เขียนและเล่าเรื่องโดย...ร.ต.ท.อภิชาติ ปัดภัย (ชาติ เชียงราย) ..Knowledge are endless. "การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด" ขอชมองค์พระ ติดต่อ..apichatimm@gmail.com