พงไพร ผีป่า นางไม้

พงไพร ผีป่า นางไม้

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

ทริปตำนานแห่งการเดินทาง เยือนเมืองแห่งพระอุปคุต จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตอน..สักการะพระธาตุดอยกองมู

"เมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน "
 "หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง "


"พระธาตุกองมู"

    "เมืองหมอกครึ้มคือแม่ฮ่องสอน มีม่อนดอยซ้อน ซ้อนแซมสลับเหลี่ยมผา"บทเพลง "แอ่วเมืองเหนือ" ร้องขับขานพรรณาถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เกี่ยวกับม่านเมฆหมอกและม่อนดอย หน้าผา สลับซับซ้อน 
    ได้มาเที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอน ช่วงฤดูหนาวปลายเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ประทับใจในเส้นทาง หมอกครึ้ม ภูเขาเขียว ทางคดเคี้ยว เลี้ยวไปเลี้ยวมา มาถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนช่วงเย็นพอดี หาอะไรทานเสร็จแล้วค่อยตระเวนชมเมือง

                อนุสาวรีย์   "พญาสิงหนาทราชา" เจ้าเมืองคนแรก เดิมชื่อชานกะเล มาจากรัฐฉาน เมียนมา เชื้อสายชาวไตหรือไทยใหญ่ ซึ่งพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ แห่งอาณาจักรล้านนา ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองคนแรก ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ ตัวอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ใกล้วงเวียนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน


     เวลาจวนพลบค่ำพอดี ขอไปชมตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในยามค่ำคืนดีกว่า ตอนนั่งทานอาหารอยู่ข้างล่างเห็นรถวิ่งแวบๆอยู่บนดอย สูงมาก ในตัวเมืองก็ยังมีดอยสูง เช่นเดียวกับตัวเมืองเชียงใหม่ มีดอยสุเทพ เลยสอบถามจึงทราบว่านั่นคือ..วัดพระธาตุดอยกองมู
   ขับรถไต่ระดับทางชันโค้ง ระยะไม่ยาวไกลเท่าไหร่ ประมาณสามสี่นาที พอขับรถเข้ามาที่บริเวณวัด หน้ารถหันตรงเข้าหาพระเจดีย์กองมูสีขาวสูงใหญ่ ตั้งโดดเด่น ใกล้สถานที่จอดรถ น่าทึ่ง เกิดอัศจรรย์แห่งพลังศรัทธา บริเวณวัดประดับด้วยไฟสลัวๆไม่สว่างจ้า แต่ไม่มืด ดูคล้ายๆกับบรรยากาศแบบที่เราเวียนเทียนทั่วๆไป แต่ที่นี่แสงไฟสีขาวนวลสลับสีเหลืองนวลไข่ไก่ ดูขลังมีมนต์เสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แค่เห็นครั้งแรกก็ประทับใจ ให้นึกถึงศรัทธาของผู้คนที่นี่จริงๆ 



"พระธาตุกองมู"





                       เก็บบรยยากาศบริเวณวัดและถาวรวัตถุมาฝากครับ
                 ซุ้มประดิษฐานพระพุทธรุปประจำวันเกิด ที่ฐานพระเจดีย์



              "หลวงพ่อทันใจ ประดิษฐานที่วิหารหลวงพ่อทันใจ"


     ป้าย "วัดพระธาตุดอยกองมู" ฉากหลังเบื้องล่างคือตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จุดนี้ผมถือว่าเป็น Landmark หลักของเมืองแม่ฮ่องสอน นักท่องเที่ยวควรพลาดไม่ได้ที่จะมาเก็บรูปตรงจุดนี้ สวยงามจริงๆครับ เหมือนเรามองลงไปจากบนฟ้าเลย...มนต์เสน่ห์ตรงนี้ ผมอยากนั่งมองทั้งคืนจัง

"เมืองสามหมอก"

                         "สิงห์คู่เฝ้าบ้านเฝ้าเมือง คู่เมืองแม่ฮ่องสอน"



              ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แนวสนามบินอยู่ด้านซ้ายมือ

ภาพจากจุดชมวิวทางลง..สิงห์คู่



        มองลงไปเห็นวัดจองคำ วัดจองกลางและหนองจองคำอยู่หน้าวัด ตัววัดประดับด้วยไฟ โทนสีออกเหลืองอ่อนสวยงามจริงๆ




            เห็นแนวสนามบินแม่ฮ่องสอนอยู่ฝั่งซ้ายจากกลางตัวเมือง


ย่านใจกลางเมืองหรือกลางเวียง

    ชมเพลินจนจวนจะสองทุ่มแล้ว ได้เวลาลงไปตระเวนหาที่พักก่อน รุ่งเช้าค่อยขึ้นมาเก็บบรรยากาศในช่วงเช้า ณ จุดนี้อีกที

       ส่องกล้องตอนเช้ากับบรรยากาศหมอก "วัดพระธาตุดอยกองมู"





     กับบรรยากาศยามเช้าที่  "วัดพระธาตุดอยกองมู" เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ นาฬิกา "เมืองหมอกครึ้มคือแม่ฮ่องสอน มีม่อนดอยซ้อน ซ้อนแซมสลับเหลี่ยมผา" เนื้อร้องท่อนบทเพลงอมตะล้านนาคำเมือง เพลง "แอ่วเมืองเหนือ" บทเพลงในดวงใจ สมกับเป็นเมืองหมอกครึ้ม เมืองแห่งม่อนดอยและเหลี่ยมผาจริงๆ









    คำขวัญประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน "หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง "


    ประวัติโดยคร่าวๆของ "วัดพระธาตุดอยกองมู" เดิมชื่อว่าวัดปลายดอย คงเพราะทำเลที่ตั้งอยู่ส่วนยอดหรือส่วนปลายดอย ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ ๑,๓๐๐ เมตร  เป็นปูชนียสถานและมงคลสิ่งสักการะคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ประดิษฐานพระธาตุเจดีย์ศิลปะแบบไทยใหญ่ ส่วนตัวผมชอบเรียกศิลปะ "ไทยใหญ่แม่ฮ่องสอน"  หาดูหาชมได้ที่นี่ ที่เมืองแม่ฮ่องสอนและตลอดทั่วจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นจริงๆ
    พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย "จองต่องสู่"พ่อค้าชาวไทยใหญ่  ตามตำนานบรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระซึ่งนำมาจากประเทศพม่าในอดีต ส่วนพระเจดีย์องค์เล็กสร้างโดยท่านเจ้าเมืองคนแรก "พญาสิงหนาทราชา" เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๗ ประวัติเพิ่มเติมหาค้นคว้าได้ทั่วไปครับ ขออนุญาตไม่ยกกล่าว ณ ที่นี้


 "พระธาตุกองมู"



   "สิงห์เสื้อพระธาตุ" ..ตั้งอยู่ที่ฐานพระธาตุกองมูทั้งสี่ทิศ น่าจะเป็นสิงห์ที่ปกปักษ์รักษาพระธาตุ ดังตามคติล้านนาจะเรียกว่า "เสื้อพระธาตุ" อาจจะปรากฏในรูปปั้นแบบยักษ์ พญานาค เทพราหูหรือหน้ากาล สิงห์ หรือรูปศาลาหลังเล็กๆ 


รูปปั้นสิงห์หน้าเทวดา อีกรูปแบบของเสื้อพระธาตุ


องค์พระในซุ้มพระ ฐานพระธาตุกองมู

    "สิงห์คู่เฝ้าเมือง" การก่อสร้างโดยการปั้นรูปสิงห์หันหน้าเข้าหาตัวเมือง เปรียบเสมือนหนึ่งท่านพญาเจ้าเมืองเฝ้ามองไพร่ฟ้าประชาชนและก็พ้องกับนามของท่านเจ้าเมืององค์แรกด้วย....พญาสิงหนาท 


   นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธฺ์แล้ว ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพของตัวเมืองแม่ฮ่องสอนที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจมาก สำหรับผมแล้ว ยกให้เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวในทุกเส้นทาง














    "หุบเขา ซ่อนเมืองใหญ่ มวลแมกไม้ ซ่อนใจนวลนาง เป็นบุญที่ได้
มาเห็น ทิวเขาเด่น ทะเลดอกไม้บาน" ขออนุญาตยกท่อนเนื้อร้องเพลง มนต์รักแม่ฮ่องสอน เพลงโปรด มาประกอบนะครับ









   จากจุดนี้ยังเป็นบันไดทางเดินเท้า ขึ้น-ลง วัดพระธาตุดอยกองมู สำหรับท่านที่ไม่มียานพาหนะ สามารถเดินเท้าขึ้นได้ครับ แต่ต้องอึดพอสมควรนะครับ แฮ่ๆ..
















"วิหารหลวงพ่อทันใจ"



"หลวงพ่อทันใจ"


    
    เรือนยอดหลังคาวิหารหลวงพ่อทันใจ แบบเรือนยอดปราสาท ฉลุประดับลวดลายด้วยแผ่นสังกะสี สวยงาม เป็นการก่อสร้างที่เกี่ยวกับประเพณีความเชื่อที่ว่า สิ่งปลูกสร้างแบบเรือนยอดปราสาทในอดีตมักจะใช้สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสิ่งที่สำคัญหรือประกอบบุญบารมีของผู้อยู่อาศัยเช่นบุคคลสำคัญ ปัจจุบันถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นประจำถิ่น เสมือนการแสดงออกของภูมิปัญญาท้องถิ่นในฝีมิอเชิงช่างและวัฒนธรรม

ส่วนเรือนหลังคา สิ่งก่อสร้างภายในบริเวณวัด


วิหารวัดพระธาตุดอยกองมู

พระพุทธรูป ภายในพระวิหาร



                           มองออกมาจากภายในพระวิหาร


                      โซนร้านจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก

                     ถาวรวัตถุอื่นๆภายในวัดและบริเวณวัด






                ด้านหลังวัดเป็นอีกจุด ที่ชมวิวทิวทัศน์สวยงาม

                                    วิหารหลวงพ่อขาว


"พระพุทธมหาจักพรรดิมิ่งมงคล"


ภาพอีกมุมของวัดพระธาตุดอยกองมู





    เป็นการเดินทางที่อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มวัฒนธรรม ประทับในความทรงจำอีกครั้ง สำหรับ "เมืองหมอกครึ้ม นครหมอกขาว เมืองแม่ฮ่องสอน" 


"ภาพสามบรรยากาศ"


   แม่ฮ่องสอน เมืองหมอกสามฤดู สอบถามข้อมูลแล้วพอจะทราบว่า เมืองหมอกสามฤดูนั้นมีที่มาจาก หมอกในฤดูหนาว เมฆหมอกในฤดูฝน และกลุ่มหมอกควันจากไฟป่าในฤดูร้อนหรือแล้ง แม่ฮ่องสอนจึงได้ชื่อว่า "เมืองสามหมอก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น