พงไพร ผีป่า นางไม้

พงไพร ผีป่า นางไม้

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

ทริปตำนานแห่งการเดินทาง เยือนเมืองแห่งพระอุปคุต จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตอน...เส้นทางช่วงที่ ๓ แม่ลาน้อย - ขุนยวม - แม่ฮ่องสอน

"ม่อนหมอกขาว ป่าสีเขียว เมืองแม่ฮ่องสอน"

                            "ม่อนหมอกขาว ป่าสามสี เมืองแม่ฮ่องสอน"

      หลังจากจัดการกับมื้อเที่ยงที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียบร้อยแล้ว จึงออกเดินทางต่อ เป็นวันที่สองของทริปเส้นทางนี้ ไปแบบชมทางสบายๆ แต่ขอให้ถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก่อนเวลาพลบค่ำ
    ประมาณสองชั่วโมงกว่านิดๆ โยกพวงมาลัยโค้งไปโค้งมา หาทางตรงยาวๆยากจัง เห็นพระเจดีย์และศาลาพระพุทธรูปหลังคาสีฟ้า ก่อสร้างแบบไทยใหญ่แม่ฮ่องสอน หลังคาปราสาทซ้อนลดหลั่นกันหลายชั้น ชายหลังคามีฉลุ อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บนเนิน..โดดเด่นริมทาง


    ป้ายบอก..."พระธาตุเจดีย์ หลวงพ่อพุทธชยันตี มงคลดี ศรีขุนยวม" แสดงว่าใกล้ถึงตัวอำเภอขุนยวมแล้ว



         ขุนยวมยังอีก ๓ กิโลเมตร แม่ฮ่องสอนอีก ๗๐ กิโลเมตร

เข้าตัวอำเภอขุนยวม


    ถนนหลักตัดผ่านชุมชนตัวอำเภอ เห็นบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมทาง ชาวบ้านจะนำสินค้า พืชผัก อาหาร มาตั้งวางขายบนโต๊ะหรือบนล้อเข็น กลายเป็นตลาดบ่ายหรือกาดแลงริมทาง แวะซื้อของได้สะดวก รวดเร็ว

    วัด..ตั้งอยู่ข้างทาง เห็นรูปปั้นข้างประตูทางเข้าแล้ว ต้องขอหยุดรถเข้าไปชมศิลปะซะหน่อยละ

 "วัดม่วยต่อ"

    วัดโดยทั่วๆไปประตูทางเข้ามักจะพบรูปสิงห์ปูนปั้นหรือรูปปั้นยักษ์ ตั้งอยู่ประจำ แต่ที่นี่กลับเป็นรูปปั้นเทวดาแต่งองค์ทรงเครื่อง ศิลปะแบบไทยใหญ่ หน้าตาเทวดานี่มีรูปใบหน้าเค้าโครงเหมือนใบหน้าคนจริง


    ซุ้มประตูรั้วทางเข้าเขตกำแพงแก้ว เป็นการก่อสร้างแบบไทยใหญ่แม่ฮ่องสอน โดยมีหลังคาซ้อนลดหลั่นกันแบบเรือนยอดปราสาท ฉลุลวดลายสังกะสีประดับ

             พระพุทธรูปประดับลวดลายด้วยกระจกสี ..ริมทางเดินเข้า

       เจดีย์ประธานและเจดีย์ราย ศิลปะแบบไทยใหญ่แม่ฮ่องสอน


    ชักจะหลงใหลในศิลปะแบบการก่อสร้างวัดของที่นี่ซะแล้วสิ โดยเฉพาะแบบการสร้างหลังคา ส่วนแบบการปั้นพระพุทธรูปก็เช่นเดียวกัน เป็นพระพุุทธรูปปูนปั้นทรงเครื่องแบบไทยใหญ่แม่ฮ่องสอนหรือจะเรียกว่าแบบมอญก็คงไม่ผิด  แต่งองค์ทรงเครื่องประทับนั่งในอิริยาบถปางสะดุ้งมาร เอกลักษณ์พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นพระพุทธรูปใบหน้าคล้ายแบบคนจริง สวมพระมาลาแบบหมวกเทวดา โดยประทับนั่งบนแท่นที่ประดับด้วยกระจกสีและลวดลายฉลุไม้ อันแสดงออกถึงฝีมือเชิงช่าง

 ออกจากวัดม่วยต่อ อำเภอขุนยวม มุ่งหน้าต่อไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ไม่ได้แวะชมทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ เพราะระยะทางแยกขวาออกไปอีกตั้งกว่าสามสิบกิโลเมตร และเพิ่งจะรู้แฮะ เส้นทางจากขุนยวม สามารถทะลุไปออกอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ได้ กับระยะทางอีกกว่าเก้าสิบกิโล...ขอย้อนกลับไปเส้นทางไปเมืองแม่ฮ่องสอนจะดีกว่า




      แม่ฮ่องสอนอีกประมาณ ๖๐ กว่ากิโลเมตร กับทางโค้งไต่ระดับลงสู่หุบเขาระยะทางยาวพอสมควร สไลด์ภาพลงเร็วๆก็ให้อารมณ์ความรู้สึกสัมผัสได้ครับ





  เข้าสู่เขตอำเภอมืองแม่ฮ่องสอนแล้ว จุดทางโค้งบ้านห้วยโป่ง..กับหมอกขาวห่มคลุมยอดดอยอันสวยงาม

                                        เรือนยอดหลังคาวัดห้วยโป่ง

                                   ม่อนหมอกขาวกับป่าไม้เริ่มผลัดใบ



"หมู่บ้านห้วยโป่ง" ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

   แวะเก็บภาพป่าดอยหมอก..ที่ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนเนินดอยระหว่างทาง อยู่ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ ๓๐ กิโลเมตร


ชิงช้าเทียมเมฆ...ดื่มกาแฟเทียมเมฆ


บรรยากาศเทียมเมฆซะจริงๆ

  "ม่อนหมอกขาว ป่าสามสี เมืองแม่ฮ่องสอน"

    ป่าไม้กำลังเริ่มผลัดใบ จากใบเขียวเริ่มจะเจริญเต็มที่เป็นสีเหลืองก่อนจะกลายเป็นสีแดง ร่วงลงสู่พื้นผิวดิน กลายเป็น "ป่าสามสี" ปกคลุมด้วยเมฆหมอกขาว ไหลห่มคลุมสร้างทัศนียภาพแต่งแต้มสีสัน ป่า ขุนเขา เมฆหมอกและต้นไม้ นี่หรือคือเสน่ห์ป่าดอย...แห่งเมืองหมอกครึ้ม เมืองสามหมอก เมืองหมอกสามฤดู สวยงามจริงๆ


 "ม่อนหมอกขาว ป่าสีเขียว เมืองแม่ฮ่องสอน"




   กาแฟแก้วเดียว แต่เติมเต็มด้วยบรรยากาศ อร่อยเป็นพิเศษ นั่งซะนานเลยเชียว  พักเต็มที่ ก่อนจะออกเดินทางมุ่งหน้าต่อไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ถนนยังเป็นถนนสองเลนส์สวนกันตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เริ่มเดินทาง ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๕


     ป้ายยินดีต้อนรับ กับระยะทางอีกประมาณ ๑๘ กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

"จุดชมวิวผาบ่อง"


               ปุยกลุ่มเมฆหมอกยังคงลอยเคลื่อนตัวปกคลุมยอดดอย


  "ผาบ่อง" คือช่องเขาหรือช่องลมแนวหน้าผา มีหุบห้วยอยู่เบื้องล่าง เป็นช่องว่างระหว่างหุบเขา กระแสลมพัดผ่านมาตามร่องหุบ ทำให้อากาศเย็นสบาย และมีทัศนียภาพที่สวยงาม




    กลุ่มปุยเมฆห่อหุ้มขุนเขา เหลือแต่ยอดดอย กลายเป็น "เกาะกลางฟ้า"



    เวลา ๑๗.๕๕ นาที ยังไม่ถึงตัวเมืองเลย จากจุดชมวิวผาบ่อง จึงต้องเร่งไปหาที่พักและรับประทานอาหารในตัวเมือง 




    อดเก็บภาพเจ้ายักษ์จอมเลื้อยคันนี้ไม่ได้ พลางนึกในใจคนขับนี่เก่งนะ พาเจ้าตัวใหญ่แถมหนักอึ้ง เลื้อยหักมุมโค้งซ้าย โค้งขวา ขึ้นซ้าย ขึ้นขวา มาจนถึงนี่ได้..

    จากมื้อเที่ยงที่อำเภอแม่สะเรียง ขับแบบความเร็วพอประมาณ ไม่รีบตามประสานคนขับชมทาง ถึงตัวอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเวลา ๑๘.๐๒ นาฬิกา พลบค่ำพอดี
เขตชุมชนชานเมืองแม่ฮ่องสอน

สีสันเมืองแม่ฮ่องสอน ยามค่ำคืน

    การเดินทางแบบขับรถชมทาง กับระยะทางเกือบ ๕๐๐ กิโลเมตร ใช้เวลาสองวันเต็ม จากตัวจังหวัดตาก ไปตามเส้นทางหลวงแผ่นดิน สาย ๑๐๕ "กี่ร้อยพันโค้ง กี่เรื่องราว" ยังคงมีไว้ให้เล่า...ตำนานแห่งการเดินทาง..สู่...เมืองหมอกครึ้ม...เมืองแม่ฮ่องสอน...

"ร้อยป่า ร้อยเรื่องราว หลากเรื่องเล่า"

4 ความคิดเห็น:

  1. ชอบป่าสามสีค่ะสวยงามมาก ช่องภูเขาก็สวยงามดูแล้วร่มรื่นบวกกับคำบรรยายประกอบภาพแล้วสามารทำให้ผู้อ่านเหมือนได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติด้วยตัวเองอ่านแล้วหลงรักแม่ฮ่องสอนเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. ชอบป่าสามสีค่ะสวยงามมาก ช่องภูเขาก็สวยงามดูแล้วร่มรื่นบวกกับคำบรรยายประกอบภาพแล้วสามารทำให้ผู้อ่านเหมือนได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติด้วยตัวเองอ่านแล้วหลงรักแม่ฮ่องสอนเลยค่ะ

    ตอบลบ
  3. สวยงามมากเลยค่ะ คนตากแท้ๆๆ ยังไม่ได้เห็นบรรยากาศความงามของธรรมชาติแบบนี้สักที ขอบคุณนะคะที่นำมาเล่า มาแชร์ประสบการณ์ ชอบมากเลยค่ะ ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ว่าสักครั้ง ต้องไปเยือนแม่ฮ่องสอนสักครั้ง

    ตอบลบ
  4. การเดินทางไม่มีสิ้นสุด ตราบใดที่ยังมีทาง..ขอบคุณครับ สำหรับทุกความคิดเห็น

    ตอบลบ