พงไพร ผีป่า นางไม้

พงไพร ผีป่า นางไม้

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าข้างกองไฟ..ตอน...ผีนางไม้แห่งตอไม้สักใหญ่ กลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดตาก

      เรื่องเล่าข้างกองไฟ...ตอน..ผีนางไม้แห่งตอไม้สักใหญ่..กลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดตาก

     ทริปนี้...โดยการชักชวนของเพื่อนสมาชิกรวมตัวกันได้ 2 คัน กับอีก 4 คนรวมทั้งตัวผม คณะเราออกเดินทางช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2557  เป็นการตระเวณป่าในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ป่ากำลังเขียวสด เมฆฝนคล้อยต่ำลอยห่มยอดเขาดูขาวนวลตา  พื้นดินชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสดชื่น ป่าหน้าฝนนี้ช่างให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำหัวใจดีจริงๆ
     จุดหมายปลายทางครั้งนี้ อยู่ที่หน่วยที่ทำการป่าไม้แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่กลางป่าลึก ของจังหวัดตาก หลังจากตระเตรียมเสบียงอาหารเสร็จ คณะเราก็พากันเดินทางสู่จุดหมาย พอล้อรถแตะเข้าเขตแนวป่า ก็ใช้ความเร็วเพื่อจะทำเวลาไม่ได้ แถมฝนตกยังพรำๆตลอดการเดินทาง เส้นทางบางช่วงรถต้องลื่นไถลตามหล่มโคลน ทำเอารถขับสี่ ส่ายสะบัดบั้นท้ายไปมาตามจังหวะการลื่นไถล คันที่ขับตามหลัง มองคันข้างหน้าออกอาการแบบนั้น ก็อดหัวเราะอย่างขบขันไม่ได้ ทำให้ได้ฮากันตามแต่ละช่วงเส้นทาง
     ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางครั้งนี้ กลางป่าลึก ...ยังมีแค้มป์คนงานที่มาเกรดทำเส้นทางเพื่อตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูง พากันตั้งแค้มป์ที่พักก่อนหน้าเราอยู่แล้ว ทางคณะเราจึงหาที่พักจากลุงเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เนื่องจากเกรงว่าหากฝนตกหนัก กางเต้นท์นอนจะลำบาก ซึ่งก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากคุณลุงท่านนี้
     ตะวันบ่ายคล้อยยามเย็น จนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้า ยามมืดคืบคลานเข้ามาแทนที่ วงสนทนาในค่ำคืนนี้ มีไม่ต่ำกว่า 2 วง มีทั้งกลุ่มของคณะเราและทางกลุ่มของคนงานไฟฟ้า ที่พอจะได้ยินเสียงสนทนาแว่วลอยมาตามทิศทางลม บทสนทนากลางป่าแต่ละเรื่อง ผสมกับสภาพแห่งบรรยากาศ สภาพภูมิทัศน์แวดล้อม ล้วนมีอรรถรสในการเล่าสู่กันฟัง
     เวลาล่วงมาราวๆ 2 ทุ่มกว่าๆ เสียงของชายแปลกหน้ามาตะโกนเบาๆ "สวัสดีครับ พวกพี่มาจากไหนกันครับ" ทราบภายหลังเจ้าของน้ำเสียงนั้นคือ....หนุ่มสน คนงานไฟฟ้าที่เดินทางมาไกลจากจังหวัดนครพนม พวกเราเอ่ยปากตอบกลับเป็นการทักทาย พลางเชื้อเชิญให้นั่งร่วมวงสนทนา ซึ่งหนุ่มสนก็ยอมรับคำเชื้อเชิญร่วมวงสนทนากับเราในค่ำคืนนี้ แต่ละคนเล่าเรื่องแนะนำเกร็ดประวัติความเป็นมาเป็นไปเล็กๆน้อยๆของการเดินทางครั้งนี้ สมาชิกของเราท่านหนึ่งเอ่ยปากขอตัวไปทำธุระส่วนตัวซักครู่ พลางลุกขึ้นจะก้าวเดิน หนุ่มสน..รีบตะโกนบอก..."พี่..อย่าไปทางนั้นนะ อย่าไปฉี่ ทางนั้นนะครับ" พรรคพวกพากันงุนงง "ตรงนั้นมีตอไม้สักใหญ่" หนุ่มสนเอ่ยบอก พร้อมกับแนะให้ไปใช้ในเส้นทางอื่น หลังจากพูดคุยสอบถามกันอยู่พักใหญ่ หนุ่มสน..จึงเริ่มเล่าเรื่องราวที่ตนเองได้เผชิญมาให้ฟัง...
    .......หนุ่มสน...พร้อมเพื่อนๆคนงาน ทำงานให้กับบริษัทรับเหมาไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ได้พากันไปทำงานซ่อมแซมและเดินสายส่งไฟฟ้ากำลังสูงและเกรดทำทางตามป่าหลายแห่ง จวบจนกระทั่งได้มาทำงานยังสถานที่แห่งนี้เมื่อต้นเดือนที่แล้ว แรกๆก็อยู่กันอย่างปกติดี คืนวันหนึ่งเวลาประมาณสองทุ่มกว่าๆ ท่ามกลางสายฝนพรำๆ พระจันทร์ส่องแสงอยู่ไรๆ หมู่เมฆทึบแบบบรรยากาศฟ้าฝน เคลื่อนคล้อยบดบังแสงจันทร์ พอจะมองเห็นยอดไม้ดำเป็นกลุ่มทะมึน แมลงหลุม จิ้งหรีด พากันรวมพลังเงียบกันหมด คงเป็นเพราะน้ำที่มากับฝน  บรรยากาศแห่งป่ายามค่ำคืนนี้มันช่างวังเวงเสียกระไร เหล่าเพื่อนคนงานพากันหลับไหลด้วยความอ่อนเพลีย หนุ่มสน...พยุงเอนกายตนเองลุกขึ้นจากการหลับไหล เพราะเสียงเพรียกแห่งธรรมชาติเรียกหา ....ปวดฉี่ ห้องสุขาก็อยู่ไกลพอสมควร แถมยังลื่นและเปื้อนดินโคลนเพราะฝนตกพรำๆตลอด จึงสอดส่ายสายตาหาทำเลที่สะดวกและใกล้ที่สุด เหลือบไปมองเห็นตอไม้สักใหญ่ดำทะมึน อยู่ตรงทางเข้าหน่วยที่ทำการป่าไม้แห่งนี้ จึงตั้งหน้าตั้งตามุ่งเดินไปตามหมาย หวังไปทำธุระให้รีบเสร็จ พอเดินออกพ้นชายคาแค้มป์ที่พัก ระยะประมาณสัก 20 วาจะถึงตอไม้สักใหญ่ พลัน.....

(ตอไม้สักใหญ่ ยังมีสายสิจน์พันรอบอยู่ด้านบน)


         สายตาทั้งคู่ก็เหลือบไปมองเข้ากับความเคลื่อนไหวบางอย่าง ลักษณะคล้ายคนใส่ชุดขาว เดินออกมาจากตอไม้สักใหญ่แห่งนั้น  หนุ่มสนพยายามเพ่งสายตาจ้องมองให้แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร พอสายตาปรับเข้ากับสภาพแสงได้ หนุ่มสนถึงกับตาค้าง ยืนนิ่งอยู่กับที่..เพราะสิ่งที่เห็นนั้น เป็นผู้หญิงผมยาวประบ่า ใส่ชุดสีขาว เดินเคลื่อนออกมาจากตอไม้สักใหญ่แห่งนั้น ลักษณะเดินแบบเท้าลอย ......เงียบไม่มีเสียงแห่งการสัมผัสใดๆ หนุ่มสน..ยืนตกใจและตะลึงได้ไม่นาน ร่างนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนกลับเข้าและหายวับไปในตอไม้สักใหญ่ต้นนั้น ....ความเงียบแห่งรัตติกาลเข้ามาครอบงำ บรรยากาศช่างวังเวงประหนึ่งตนเองตกอยู่ในภวังค์  หนุมสน...ฟื้นคืนสติ เรียกความรู้สึกกลับคืนมาได้ รีบหมุนตัวเลี้ยวกลับ พร้อมกับสาวเท้าเดินมุ่งหน้ากลับสู่ที่นอนของตนเอง ลืมไปหมดว่าออกมาทำอะไร พลางอุทานในใจว่า....ผีนางไม้ ...ผีนางไม้...ๆๆๆ
    นับจากวันนั้นมา หนุ่มสนเอง ได้แต่เก็บเหตุการณ์ในค่ำคืนวันนั้นไว้คนเดียวไม่กล้าบอกใคร และทุกครั้งที่เดินผ่านตอไม้สักแห่งนั้น จะพยายามไม่หันกลับไปมองมัน จนกระทั่ง.....รถเกรด...ไถเกรดทำทางมาถึงทางเข้าสถานที่หน่วยป่าไม้แห่งนั้น คนขับพยายามขับเข้าไปเพื่อที่จะดัน..เกรดถอนตอไม้สักนั้นออก จะได้ขยายเส้นทาง ปรากฏเหตุการณ์แปลกประหลาด รถเกรด...เครื่องยนต์ดับ แม้จะพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วพยายามขับเข้าไปใหม่ เครื่องยนต์ก็ดับลงอีก จนเป็นที่แปลกใจของคนขับและเหล่าคนงาน หนุ่มสน...อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย จึงตัดสินใจบอกทุกคน...ถึงเหตุการณ์ที่ตนเองได้เผชิญกับความลึกลับแห่งตอไม้สักในค่ำคืนนั้น
   เป็นอันว่า...คนขับตัดสินใจไถเกรดเลี่ยงตอไม้สักแห่งนั้น ทำให้ตอไม้สักยังคงตั้งโดดเด่นอยู่กลางทาง...อย่าว่าแต่รถเกรดเครื่องยนต์ดับเลยครับ ขนาดผมถ่ายภาพยังไม่กล้าที่จะตั้งใจเล็งเก็บภาพเลย กลัวว่าจะเป็นการลบหลู่....และการกลับออกจากป่าแห่งนั้นอาจจะพบเจอเหตุการณ์อาถรรพณ์ก็เป็นได้ ......จึงได้แต่รีบเก็บภาพและแสดงออกด้วยความเคารพ..


     การเขียนเล่าเรื่องราวจากป่าลึกครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาเป็นการให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เป็นไปเพื่อ อรรถรสในการเข้าป่าและปลูกจิตสำนึกให้เกิดความยำเกรง ร่วมใจกันพิทักษ์ผืนป่าและสัตว์ป่า ที่นับวันจะหดหายลงไปทุกที่....

5 ความคิดเห็น:

  1. ข้างบนด้านซ้ายของภาพเหมือนจะมีรูปอะไรเป็นควันขาวๆอยู่นะครับ. เหมือนผู้หญิงผมสั้นปะบ่าใส่ชุดสีขาวเหมือนคนจำศีลในวันสำคัญทางศาสนา

    ตอบลบ
  2. ข้างบนด้านซ้ายของภาพเหมือนจะมีรูปอะไรเป็นควันขาวๆอยู่นะครับ. เหมือนผู้หญิงผมสั้นปะบ่าใส่ชุดสีขาวเหมือนคนจำศีลในวันสำคัญทางศาสนา

    ตอบลบ
  3. คำตอบ
    1. คือเราดูรูปไม่ได้อะทุกคนสงสัยเขาไม่อยากให้เราดู

      ลบ