วัดพระพุทธบาทดอยโล้น
รอยพระพุทธบาทเบื้องขวาและรอยพระหัตถ์เบื้องขวาพระพุทธเจ้า
การเดินทางใช้ทางหลวงจากอำเภอบ้านตากหมายเลข 1175 เส้นทางไปอำเภอแม่ระมาด ผ่านวัดพระบรมธาตุบ้านตาก อำเภอบ้านตาก อีกราว 10 กว่ากิโลเมตร ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเห็นป้ายบ้านท้องฟ้า
บ้านท้องฟ้า
ป้ายบอกทางไปวัดพระพุทธบาทดอยโล้น
เลี้ยวขวาตรงทางเบี่ยงสะพานเข้าหมู่บ้านท้องฟ้า ระยะทางไปอีกประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร
ผ่านเข้าเขตหมู่บ้านฉลอม
จากตรงนี้สามารถมองเห็นเขตวัดพระพุทธบาทดอยโล้น โดยมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว พร้อมพระเจดีย์ประธาน ตั้งอยู่โดดเด่นเลยปลายทุ่งนา
เลี้ยวซ้ายแยกหน้า
ป้ายวัดพระพุทธบาทดอยโล้น
แสดงว่าเป็นสาขาวัดหนองป่าพง เป็นวัดป่าฝ่ายอรัญวาสี (หลวงพ่อชา สุภัทโท)
จากจุดนี้สามารถมองเห็นมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทและเจดีย์พระธาตุทันใจ อยู่บนยอดดอยโล้น
มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท
เจดีย์ขาว "พระธาตุทันใจ"
"..พระมหาสากะยะมุณีศรีสรรเพชร.."
พระเจดีย์ประธาน
ภายในบริเวณวัดกำลังก่อสร้าง
ลานธรรมอาฏานาฏิยา
ลานจอดรถก่อนเดินขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทดอยโล้น
ศาลาจุดเริ่มต้นเดินขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทดอยโล้น
ฟิตร่างกายกันหน่อยครับ แบกกระสอบทรายหรือวัสดุก่อสร้างขึ้นไปด้วยยิ่งดี แฮ่ๆๆๆ...
เป็นบันไดทางขึ้นเส้นทางใหม่ เส้นทางเก่าเดินลัดเลาะและปีนป่ายขึ้นไปตามโขดหิน
เริ่มขึ้นสู่แดนสนธยากันเลยครับ
บรรยากาศเงียบ วังเวงพิกลเหมือนเดินเข้าสู่ "แดนสนธยา" ยิ่งเดินขึ้นมาคนเดียวด้วย
ชื่อศาลาที่พักกลางบันไดทางเดิน
แนวทางเดินขึ้นสายเก่าในอดีต ต้องปีนป่าย เดินลัดเลาะขึ้นไปตามแนวโขดหิน แสดงถึงศรัทธาอันแรงกล้าของเหล่าผู้ศรัทธา
ยังคงเหลือเครื่องหมายลูกศรบอกทิศทาง ตามแนวโขดหินพร้อมคติธรรม คำสอนทางศาสนาพุทธ
ช่วงเดินขึ้นไป บางจังหวะต้องมองซ้ายมองขวา เพราะลมพัดหวิวเบาๆ เสียงลมปะทะใบไม้แห้งทำให้ มีความรู้สึกว่ามีใครกำลังเดินตามเราอยู่
"หอคอยตรวจการณ์แดนสนธยา"
หินโดมก้อนใหญเหมือนหอคอยตรวจการณ์ในแดนสนธยา เฝ้าสังเกตุผู้แปลกถิ่นมาเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
หินก้อนใหญ่พร้อมตัวอักษร ทั้งลักษณะของก้อนหิน สี สภาพผีนป่าโดยรอบ ดูได้อารมณ์ต่างมิติ วังเวงจับใจ เหมือนอยู่ในดินแดนลึกลับ แดนสนธยา
เดินขึ้นมาถึงตรงจุดนี้ ค่อยใจชื้นหน่อยครับ
พิชิตได้แล้วกับพลังศรัทธาในการเดินขึ้น ระยะทางประมาณ 546 เมตร หรือ 730 ขั้นบันได
กำลังก่อสร้าง
วิวทิวทัศน์ เสียดายแดดจัดไปหน่อย
ทางเดินไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาและรอยพระหัตถ์เบื้องขวาพระพุทธเจ้า
มณฑปครอบรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาและรอยพระหัตถ์เบื้องขวาพระพุทธเจ้า
ข้างในมณฑปมีรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาและรอยพระหัตถ์เบื้องขวาพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่คู่กัน
พระพุทธบาทเบื้องขวา
รอยพระหัตถ์เบื้องขวา
ประวัติพระพุทธบาทดอยโล้น....โดยย่อ
พระพุทธบาทดอยโล้นประดิษฐานบนเขาที่มีลักษณะคล้ายช้างหมอบ ซึ่งปรากฏรอยประทับของพระพุทธบาทเบื้องขวาและรอยพระหัตถ์เบื้องขวาของพระพุทธเจ้า โดยรอยพระพุทธบาทมีขนาดความยาว ๓.๔ เมตร กว้าง ๑.๔ เมตร รอยพระหัตถ์มีขนาดความยาว ๒.๖ เมตร กว้าง ๑.๑ เมตร ประทับลงบนยอดผาหินศิลา
สถานที่แห่งนี้เดืมเรียกว่า ดอยโล้นเชียงรุ้ง เพราะในสมัยก่อนในช่วงวันพระตอนกลางคืน มีผู้พบเห็นปรากฏการณ์แสงสีรุ้ง ทอขึ้นไปบนท้องฟ้าหรือบางครั้งก็เห็นเป็นดวงไฟลอยขึ้นจากยอดเขาพระพุทธบาท
ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก พงศาวดารทางเหนือกล่าวไว้ว่า "เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประกาศพระศาสนาไปตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งมาถึงเมืองตากศิลา พระองค์ได้เสด็จไปยังดอยแห่งหนึ่ง ลักษณะคล้ายช้างหมอบ ยักษ์อารักษ์เห็นเข้าไม่รู้จัก จึงใช้เวทย์มนต์หมายจะทำร้ายและขับไล่พระองค์ พระองค์ได้แสดงพุทธานุภาพสกัดกั้นและทำลายเสียจนยักษ์อารักษ์ ยอมแพ้ละความดุร้าย แล้วเข้ามากระทำวันทาขอขมา พระองค์ทรงเทศนาสั่งสอน จนยักษ์อารักษ์ถึงซึ่งไตรสรณคมณ์ จากนั้นพระพุทธองค์ได้เหยียบประทับรอยพระบาทเบื้องขวาและประทับรอยฝ่าพระหัตถ์เบื้องขวา บนยอดหินศิลาตรงส่วนศรีษะช้าง เพื่อให้มนุษย์และเหล่าเทวดาได้ร่วมสักการะบูชา ยักษ์เฝ้าอารักษ์ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คือ...พระพุทธบาทดอยโล้น อ.บ้านตาก จ.ตาก"
"วัดพระบรมธาตุบ้านตาก"
ต่อมาพระพุทธองค์ได้เสด็จไปยังดอยมะหิยังกะ ทรงลูบไล้พระเกศาได้ ๔ เส้น แล้วมอบให้พระอรหันต์นำมาบรรจุไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ ภายหลังพระองค์ทรงดับขันธ์ปรินิพพาน ซึ่งสถานที่แห่งนี้ปัจจุบันคือ...วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก
จากนั้นพระพุทธองค์ได้เสด็จต่อไปจนถึงหนองน้ำแห่งหนึ่ง พบพญางูใหญ่ ๒ ตัว ถือศิลบำเพ็ญเพียรอยู่ จึงได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ใกล้หนองน้ำ เพื่อให้งูใหญ่เคารพสักการะบูชาและเฝ้าอารักษ์สถานที่แห่งนั้น ปัจจุบันคือ....พระพุทธบาทดอยงู อ.บ้านตาก จ.ตาก
ทิวทัศน์มองลงไปเบื้องล่าง UNSEEN เมืองตาก
ทางขึ้นที่ตั้งบ่อน้ำทิพย์และพระธาตุทันใจดอยโล้น
สถานที่ตั้ง..คล้ายกับส่วนหลังช้างหมอบ และเหมือนกับสถานที่ในฉากหนังไทย ประเภทจักรวงศ์
ทางขึ้นไปดูบ่อน้ำทิพย์ เกาะราวขึ้นไปอย่างเดียวครับ
ลักษณะเป็นเหลี่ยมเขา คล้ายช้างหมอบ ส่วนประดิษฐานรอยพระพุทธบาทคล้ายส่วนศรีษะช้าง
ใกล้ถึงแล้วครับ ทางชันน่าดู
"บ่อน้ำทิพย์"
"บ่อน้ำทิพย์"
ปากบ่อผิวไม่เรียบ กว้างประมาณ ๒๐ เซนติเมตร เป็นหลุมลึกลงไปภายในหินผาอย่างน่าประหลาด มีน้ำซึมอยู่ภายใน บางครั้งมีผู้ไปสวดมนต์หรืออธิษฐานจิตบริเวณบ่อน้ำทิพย์ ปรากฏน้ำผุดขึ้นมาให้เห็นอย่างน่าอัศจรรย์
เป็นบ่อน้ำที่มีลักษณะคล้ายรูตาน้ำผุด ดันออกมาจากภายในจนหินที่ถุกดันขึ้นมา ล้นเป็นส่วนเกินบริเวณขอบปากบ่อ ลักษณะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติและมีส่วนโค้งภายในรู
"ภูหินช้างหมอบ วัดพระพุทธบาทดอยโล้น"
เมฆฝนไล่มาแล้ว ประกายแสงจากฟ้าแลบอสุนีบาตลงพึ้นดิน จึงต้องรีบลงแล้ว
บันไดทางลง เหมือนกับเราลงจากบ้านเมืองข้างบนลงไปบ้านเมืองข้างล่าง
เก็บบันทึกภาพก่อนอำลากลับ
"วิถีชาวบ้าน กลางวิถีแห่งพุทธะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น