พงไพร ผีป่า นางไม้

พงไพร ผีป่า นางไม้

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2556

ตอน เที่ยวป่าปางสีดา ป่ามรดกโลก


    ทริปนี้ออกเดินทางไปคนเดียว ช่วงเดือนพฤศจิกายน เตรียมเสบียงเรียบร้อยแล้ว พร้อมกล้องถ่ายรูปแบบคอมแพค Nikon P 500 เริ่มอออกเดินทางจากกรุงเทพตอนสายๆหน่อย โดยใช้เครื่องนำทาง GPS ทำให้ไม่ต้องพะวงกับเส้นทางมากนัก โดยใช้เส้นทาง ลาดกระบัง-ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม-กบินทร์บุรี-สระแก้ว ระยะทางประมาณ 200 กม.กว่านิดๆ ขับแบบสบายๆ ไม่รีบก็ถึงเอาตอนบ่ายแก่ๆ ชำระค่าธรรมเนียมเสร็จแล้วก็ลุยได้เลย สำหรับท่านที่จะค้างคืนให้เตรียมเตาถ่านไปด้วยนะครับ ทางอุทยานไม่อนุญาตให้ก่อไฟแบบสุมฟืน เครื่องเสียงเครื่องดนตรีไม่ต้อง อยู่แบบธรรมชาติสบายๆ ฟังเสียงดนตรีจากธรรมชาติ ได้บรรยากาศป่าจริงๆ


จุดแรกที่แวะชม น้ำตกปางสีดา ที่จอดรถอยู่ติดถนนหลัก มีห้องน้ำที่สะดวกพร้อม จากจุดนี้ไปจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์มือถือ ของผมใช้ระบบ one 2 call ไม่ได้ลงภาพน้ำตกให้ชมนะครับ ค้นหาจาก Google ได้ไม่ยาก
พอพ้นถนนดำไปแล้ว สภาพถนนก็เป็นอย่างที่เห็น เป็นถนนลูกรัง ไปแบบสบายๆ 

                              

     ถัดจากน้ำตกปางสีดามาได้ซักระยะ ก็จะพบกับด่านตรวจของเจ้าหน้าที่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งด้านหลังด่านตรวจฯก็จะพบกับโป่งผีเสื้อ หลากหลายสีสัน ตระการตามาก 


ป้ายบอกเขตกระทิง แต่วันนี้โชคไม่ดี เจอแต่มูลกระทิงสดๆ เพิ่งเดินผ่านไปก่อนหน้า




     และแล้วก็โชคยังเป็นใจอยู่บ้าง พบ "หมาไนย" สัตว์ป่าหายากชนิดหนึ่ง วิ่งนำหน้ารถไปเรื่อยๆ รูปร่างค่อนข้างจะผอม หางตกตลอด เป็นครั้งแรกที่ได้ถ่ายภาพสัตว์ป่าหมาไนย









      ส่วนตัวนี้ โฉบมาแล้วก็วิ่งสับขาผ่านไปเร็วมาก ไก่ป่าหูขาว(ตัวผู้) ดีที่เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้พร้อม พอจะจับภาพได้ทัน



    แท่งหินทรายป้ายบอกสัญลักษณ์ " มรดกโลก อุทยานแห่งชาติ ปางสีดา " เป็นจุดชมวิว หุบเขาห้วยโสมง ต้นแม่น้ำปราจีนบุรี 
    ที่นี่อยู่คนเดียวเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว เสียงหวีดหวิวของสายลมพาให้ผมเหลียวซ้าย แลขวา หันหลังอยู่เรื่อย เหมือนกับมีตัวอะไรย่องเงียบ เหยียบบนใบไม้ใบหญ้ารุกประชิดเข้ามา เบื้องล่างในหุบเขา เสียงหวีดหวิวของสายลมพัด เสมือนหนึ่งดั่งมีขบวนรถด่วนสายยาว วิ่งลอดตลอดใต้หุบเขา








เสียงป่าของที่นี่ไม่เหมือนกับเสียงป่าของที่อื่นที่ผมเคยไปมา ได้อารมณ์ป่าดีทีเดียวครับ





 จุดชมวิว หุบเขาห้วยโสมง ต้นแม่น้ำปราจีนบุรี 












เฟิร์นป่า (เฟิร์นหูช้าง) หริอกระเช้าสีดาน่า มีขนาดใหญ่มาก ขึ้นบนกิ่งไม้ใหญ่สูงตระหง่าน



     ขับย้อนกลับลงมาที่พักค้างคืน ใกล้กับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ บรรยากาศตอนกลางคืนของที่นี่ มืดสนิท มองไม่ค่อยเห็นดวงดาว เนื่องจากต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านบดบัง เสียงลม เสียงสัตว์ปีกตอนกลางคืน บินมาชนฝาที่พักดังป็อกๆ เป็นระยะ นึกว่าใครมาเคาะไม้เล่น ส่องไฟหาจนเจอ ค้างคาวนี่เอง เข้าใจเล่นเนาะ ไม่ได้ภาพหรอกครับ ตกกะใจอยู่



         ตื่นแต่เช้า เสียงป่าปลุกแต่ย่ำรุ่ง ใจอยากจะนอนต่อแต่นอนไม่ได้ โชคดีได้ภาพกระรอกเผือก ตัวขนาดเขื่อง โชว์วิถีชีวิตการออกหากิน เหมือนกับคนเราไปตลาดตอนเช้า เสียงซอกแซกแหวกเปลือกไม้หาเหยื่อ 







โลดแล่นไปบนปลายกิ่งไม้ด้วยความคล่องตัว




และแล้วก็ได้เวลาอำลากลับ เพื่อนมาดักรอส่งอยู่ข้างหน้า  งูเหลือมในธรรมชาติสีสันสดใสมาก


      สีเหลืองสด ได้อารมณ์สีจริงๆ สีเหลืองแบบธรรมชาติ ไม่เหมือนกับสีเหลืองที่ผสมขายกันทั่วไปในท้องตลาดเลย โดยเฉพาะส่วนหัว .. จอดรถแล้ววิ่งมาถ่ายรูปแทบไม่ทัน











ร้อยป่า ร้อยเรื่องราว หลากเรื่องเล่า กับชีวิตแห่งป่า


 ระหว่างทางกลับ แวะชมอ่างเก็บน้ำริมทาง ลมพัดแรงที่เดียว เหมือนทะเลบกเลย






1 ความคิดเห็น: